API มี 4 ประเภทอะไรบ้าง?

Nov 30, 2023

ฝากข้อความ

การแนะนำ

API หรือ Application Programming Interface เป็นคำที่เรามักได้ยินในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นชุดของกฎ โปรโตคอล และเครื่องมือที่โปรแกรมเมอร์ใช้เพื่อโต้ตอบกับส่วนประกอบซอฟต์แวร์หรือระบบแอปพลิเคชันอื่นๆ API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลและฟังก์ชันการทำงานของโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเข้าใจเทคโนโลยีพื้นฐาน มี API หลายประเภทที่ทำหน้าที่ต่างกัน ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจ API หลักสี่ประเภทและฟังก์ชันการทำงานตามลำดับ

ประเภทที่ 1: Open API

Open API หรือที่เรียกว่า API ภายนอกหรือสาธารณะ สามารถเข้าถึงได้โดยนักพัฒนาและผู้ใช้โดยมีข้อจำกัดขั้นต่ำ API เหล่านี้มีให้บริการโดยบริษัทและองค์กรต่างๆ ที่ต้องการสนับสนุนให้นักพัฒนาบุคคลที่สามสร้างแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มของตน

ตัวอย่างเช่น Twitter และ Facebook มี API แบบเปิดที่ช่วยให้นักพัฒนาบุคคลที่สามสามารถเข้าถึงและรวมข้อมูลเครือข่ายโซเชียลของตนเข้ากับแอปพลิเคชันของตนเองได้ นักพัฒนาเหล่านี้สามารถสร้างเครื่องมือใหม่ เช่น แดชบอร์ดโซเชียลมีเดีย เครื่องมือวิเคราะห์ความรู้สึก และแดชบอร์ดติดตามโซเชียลมีเดีย

ข้อดีที่สำคัญประการหนึ่งของ API แบบเปิดคือส่งเสริมนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน ด้วยการเปิดข้อมูลและทรัพยากร องค์กรสามารถกระตุ้นการพัฒนาแอปพลิเคชันและเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายได้มากขึ้น

ประเภทที่ 2: API ภายใน

API ภายในคือ API ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ภายในโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร API เหล่านี้ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะและมีจุดประสงค์เพื่อให้ทีมภายในองค์กรใช้เพื่อสื่อสารกัน แบ่งปันข้อมูล และปรับปรุงกระบวนการทำงาน

ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจใช้ API ภายในเพื่อรวมเครื่องมือการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เข้ากับซอฟต์แวร์บัญชีของตน การทำเช่นนี้ พวกเขาสามารถอัปเดตใบแจ้งหนี้และข้อมูลการเรียกเก็บเงินได้โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการสร้างหรืออัปเดตบันทึกลูกค้าใหม่ในระบบ CRM

API ภายในมักได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะขององค์กรเฉพาะ สามารถใช้เพื่อทำให้เวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนเป็นอัตโนมัติ ปรับปรุงกระบวนการภายใน และเชื่อมต่อระบบและแอปพลิเคชันที่แตกต่างกัน

ประเภทที่ 3: API ของคู่ค้า

API ของคู่ค้าได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานโดยคู่ค้าหรือผู้รับเหมาเฉพาะขององค์กร โดยทั่วไปแล้ว API เหล่านี้จะใช้โดยบริษัทที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เช่น พันธมิตรทางธุรกิจ ซัพพลายเออร์ หรือผู้รับเหมา

ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจใช้ API ของคู่ค้าเพื่อรวมระบบการจัดการสินค้าคงคลังเข้ากับระบบการสั่งซื้อของซัพพลายเออร์ ซัพพลายเออร์สามารถรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับระดับสินค้าคงคลังและสั่งซื้อได้ตามต้องการโดยอัตโนมัติ

API ของคู่ค้ามักถูกจำกัดมากกว่า API แบบเปิด เนื่องจากมีไว้เพื่อใช้งานโดยกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ พวกเขาอาจต้องมีการรับรองความถูกต้องและการอนุญาตก่อนจึงจะสามารถเข้าถึงได้ และอาจมีขีดจำกัดการใช้งานหรือค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

ประเภทที่ 4: Composite API

Composite API คือการรวมกันของ API ต่างๆ มากมายที่รวมกันเป็นอินเทอร์เฟซเดียว API เหล่านี้ใช้เพื่อมอบมุมมองแบบรวมของแหล่งข้อมูลหรือบริการต่างๆ ทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและโต้ตอบกับข้อมูลนี้ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น อาจใช้ Composite API เพื่อรวมข้อมูลจากประวัติการสั่งซื้อของลูกค้า สถานะการจัดส่ง และข้อมูลการชำระเงินจากระบบต่างๆ มากมาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถดูข้อมูลทั้งหมดนี้ได้ในอินเทอร์เฟซเดียว

Composite API มีประสิทธิภาพมาก เนื่องจากช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างมุมมองข้อมูลแบบกำหนดเองที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของพวกเขาได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงเวิร์กโฟลว์และทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติโดยรวบรวมข้อมูลและบริการจากหลายแหล่งมารวมกันไว้ในอินเทอร์เฟซเดียว

บทสรุป

API เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์สมัยใหม่ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและโต้ตอบกับข้อมูลและฟังก์ชันการทำงานจากระบบและบริการอื่นๆ ทำให้ง่ายต่อการสร้างแอปพลิเคชันและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ มี API ประเภทต่างๆ ที่ให้บริการตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ API แบบเปิดที่ส่งเสริมนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน ไปจนถึง API แบบรวมที่ให้มุมมองแบบรวมของแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง ด้วยการทำความเข้าใจ API ประเภทต่างๆ และฟังก์ชันการทำงานที่เกี่ยวข้อง นักพัฒนาจะสามารถเลือก API ที่เหมาะกับความต้องการของตน และสร้างแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นได้

ส่งคำถาม
คุณฝันถึงมัน เราออกแบบมัน
เรามีเส้นทางการสังเคราะห์ที่มั่นคงและเหนือกว่า ระบบควบคุมคุณภาพและประกันคุณภาพที่เข้มงวด ทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความรับผิดชอบ และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ติดต่อเรา